ในระบบการกรองน้ำแบบ RO (Reverse Osmosis) จะมีน้ำทิ้งจากกระบวนการล้างเมมเบรน ซึ่งถ้าเราใส่ Flow น้ำทิ้งผิดขนาดแล้วก็จะทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ คือ
1 ถ้าเราเลือก Flow น้ำทิ้งขนาดน้อยกว่าที่ระบบต้องการ ก็จะทำไส้กรองเมมเบรนอุดตันเร็ว
2 ถ้าเราเลือก Flow น้ำทิ้งขนาดมากกว่าที่ระบบต้องการ ก็จะทำให้มีน้ำทิ้งมากเกินความจำเป็นแต่่เมนเบรนก็จะเกิดการอุดตันช้า
แล้วที่ตัว Flow เขียนว่า 300 บ้าง 400 บ้าง คืออะไร
300 คือ 300ซีซี/นาที ถ้า 24 ชั่วโมงก็จะมีน้ำทิ้งประมาณ 432 ลิตร หรือประมาณ 114 แกลอน
400 คือ 400ซีซี/นาที ถ้า 24 ชั่วโมงก็จะมีน้ำทิ้งประมาณ 576 ลิตร หรือประมาณ 152 แกลอน เป็นต้น
****แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะมีน้ำทิ้งขนาดนี้ นะค่ะ เพราะเครื่องกรองน้ำระบบ RO นั้นไม่ได้ทำงานตลอดเวลานั้นเอง****
แล้วการเลือกใช้ Flow น้ำทิ้งต้องทำอย่างไรบ้าง
ผู้ผลิตไส้กรอง RO Membrane แนะนำให้ใช้อัตราส่วน 1:2 ,1:3 หรือ 1:4
เช่น 1:2 คือ น้ำดี 1 ส่วน ต่อ น้ำทิ้ง 2 ส่วน
1:3 คือ น้ำดี 1 ส่วน ต่อ น้ำทิ้ง 3 ส่วน
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราใช้ไส้กรองเมมเบรน 50GPD จะใช้ Flow ขนาดเท่าไรดี
ถ้าเลือกเป็น 1:2 ก็จะต้องใช้ Flow ขนาด 100GPD แต่ที่มีขายคือ Flow 300 ที่จะได้น้ำทิ้งประมาณ 114 GPD นั้นเอง
ถ้าเลือกเป็น 1:3 ก็จะต้องใช้ Flow ขนาด 150GPD แต่ที่มีขายคือ Flow 400 ที่จะได้น้ำทิ้งประมาณ 152 GPD นั้นเอง
ตอนนี้เราก็สามารถเลือก Flow น้ำทิ้งให้เหมาะสมกับความต้องการนั้่นเองค่ะ
โดยสรุป ถ้าเราใช้อัตรา 1:2 เราสามารถเลือกใช้งาน Flow น้ำทิ้งได้ดังนี้คือ
ไส้กรองเมมเบรน 50 GPD ต้องใช้ Flow 300
ไส้กรองเมมเบรน 75GPD ต้องใช้ Flow 400
ไส้กรองเมมเบรน 100GPD ต้องใช้ Flow 550 เป็นต้น
หน้าที่เข้าชม | 1,027,797 ครั้ง |
เปิดร้าน | 27 เม.ย. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |